ทำไม ชื่อวันในภาษาอังกฤษจึงไม่ใช่ชื่อของดาวเคราะห์เหมือนในภาษาไทย?

ชื่อวันในภาษาอังกฤษส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลมาจากเทพปกรณัมนอร์ส (นอร์ส หรือ Norse คือคนที่อาศัยอยู่ในสแกนดิเนเวีย เป็นต้นตระกูลของชาวดัชท์ สวีดิช นอร์วีเจียน และไอซ์แลนด์ในปัจจุบัน) แต่ก็ยังคงคาบเกี่ยวกับเทพปกรณัมกรีก อันเป็นที่มาของชื่อดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ

as20191010 1 01

ชื่อของวันในภาษาอังกฤษมีที่มาจากไหนกัน ?

เริ่มต้นกันที่ Sunday หรือ วันอาทิตย์ ถูกตั้งชื่อตาม “ดวงอาทิตย์” (sun) ภาษาอังกฤษโบราณ(ภาษาแองโกล-แซกซัน) สะกดวันอาทิตย์ว่า “Sunnandæg” หมายถึง วันของดวงอาทิตย์ (the day of the sun) ตามความเชื่อของชาวคริสเตียน วันแรกของสัปดาห์คือวันอาทิตย์ ตรงกับวันที่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ เป็นวันแห่งการพักผ่อนเพื่อแสดงความเคารพต่อพระเยซู ในภาษาลาตินวันอาทิตย์ตรงกับคำว่า Dies Solis หมายถึง “วันแห่งพระเจ้า” นอกจากนี้ ดวงอาทิตย์ยังเป็นดาวดวงที่สำคัญ เช่น ให้ความอบอุ่น แสงสว่าง และมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มากที่สุด

Monday หรือ วันจันทร์ ถูกตั้งชื่อตาม “ดวงจันทร์” (Moon) วันจันทร์ในภาษาอังกฤษโบราณสะกดได้เป็น “Monandæg” มีความหมายว่า “วันของดวงจันทร์” (the day of the Moon) 

Tuesday หรือ วันอังคาร ไม่ได้ถูกตั้งชื่อตามดาวอังคาร (Mars) แต่เป็นชื่อที่ได้มาจากเทพเจ้า “เทียร์ (Tyr)” ในเทพปกรณัมนอร์ส มีอีกชื่อหนึ่งว่า ทิว (Tiw) ในภาษาอังกฤษโบราณ วันอังคารสะกดว่า “Tiwesdæg” หมายความว่า วันของทิว  (the day of Tiw) เทพเจ้าเทียร์มีความคล้ายคลึงกับเทพเจ้ามาร์ส (Mars) ของชาวโรมันตรงที่ทั้งคู่เป็นเทพเจ้าแห่งสงครามเหมือนกัน

Wednesday หรือ วันพุธ มีที่มาจากเทพ “โอดิน (Odin)” คนทางยุโรปภาคกลางเรียกชื่อโอดินเพี้ยนไปเป็น โวเดน (Wodan) ในภาษาอังกฤษโบราณวันพุธเขียนเป็น “Wodnesdæg” (the day of Woden) ส่วนภาษาละติน “Woden’s day” มีความหมายตรงกับ “the day of Mercury” ความเชื่อมโยงระหว่างดาวพุธ (Mercury) กับเทพโอดินคือ เทพทั้งสององค์เป็นผู้นำวิญญาณคนตายเหมือนกัน 

Thursday หรือ วันพฤหัสบดี ตามตำนานเชื่อว่า วันพฤหัสบดีตั้งชื่อตามเทพเจ้าธอร์ (Thor) เทพสายฟ้า คล้ายคลึงกับเทพจูปิเตอร์ (Jupiter) ของชาวโรมัน ในภาษาอังกฤษโบราณสะกดคำนี้ว่า “Thuresdæg” หมายความว่า วันของเทพเจ้าธอร์ (the day of Thor) หรือ วันของเทพเจ้าจูปิเตอร์  (the day of Jupiter)

Friday หรือ วันศุกร์ ตั้งชื่อตามเทพีนามว่า “ฟริกก์ (Frigg)” เทพีแห่งความงดงามและความเมตตา แบบเดียวกันกับเทพีของชาวโรมันนามว่า วีนัส (Venus) ในภาษาอังกฤษโบราณสะกดวันศุกร์ว่า “Frigedæg” หมายถึง วันของเทพีฟริกก์ (the day of Frigg)

Saturday หรือ วันเสาร์ ชื่อวันนี้ตั้งตามเทพเจ้าของชาวโรมันนามว่า แซทเทิร์น  (Saturn) เทพเจ้าแห่งการเพาะปลูก ในภาษาละตินจะแปลว่า “Saturni dies” หรือ “the day of Saturn” นอกจากนี้ในภาษาอังกฤษโบราณสะกดคำนี้ว่า “Saternesdæg” ความหมายว่า วันของแซทเทิร์น (the Saturn’s day)

นอกจากนี้ชื่อของวันทั้ง 7 นั้นยังถูกเรียกแตกต่างกันไปตามภาษาต่างๆ เช่น ในภาษาจีนวันทั้ง 7 จะเรียกวันต่างๆเป็นตัวเลข คือ 星期一 (วันจันทร์) 星期二 (วันอังคาร) เป็นต้น 

 

เรียบเรียง : พัชริดา ยั่งยืนเจริญสุข เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ - สดร.

อ้างอิง

https://www.seiyaku.com/customs/days-months-seasons.html?fbclid=IwAR2ZegQSr1ZknpLG3ISYWfvMSjNIfAI7jbNBEkX5-x7hV1vBD1ej-dx6_VI#days
https://www.livescience.com/45432-days-of-the-week.html
https://englishlive.ef.com/blog/language-lab/origins-behind-english-weekday-names/