นี่คือภาพจินตนาการของดาวเคราะห์ปริศนาพร้อมวงโคจรของดาวเนปจูนรอบดวงอาทิตย์ ซึ่งนักดาราศาสตร์คาดว่าดาวเทียมสำรวจดาวเคราะห์นอกระบบ (Transiting Exoplanet Survey Satellite : TESS) อาจมีข้อมูลเกี่ยวกับดาวเคราะห์ปริศนาที่ “อาจจะ”เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ของระบบสุริยะ

as20200116 1 01

เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้วมีการนำเสนอข้อมูล “ดาวเคราะห์ X”  ซึ่งมีโอกาสเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ในระบบสุริยะ อยู่พ้นวงโคจรของดาวเนปจูนออกไป คาดว่ามีมวลประมาณ 5 เท่าของมวลโลก  วงโคจรของวัตถุท้องฟ้าในบริเวณนั้นบ่งชี้ว่า อาจมีวัตถุปริศนาอยู่  แต่เนื่องจากระยะที่ห่างไกลมากจึงยังไม่สามารถยืนยันด้วยการสังเกตพบดาวได้โดยตรง 

ล่าสุดมีงานวิจัยตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการของสมาคมดาราศาสตร์สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 คาดว่า ดาวเทียมเทสส์ (TESS) ของนาซาอาจเคยสำรวจผ่านและมีข้อมูลของดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่ 

as20200116 1 02

แผนภาพแสดงวงโคจรของดาวเคราะห์ดวงที่ 9 ซึ่งแปลกประหลาดกว่าวัตถุอื่น ๆ ในระบบสุริยะ

ดาวเทียมเทสส์เป็นดาวเทียมสำหรับค้นหาดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะด้วยวิธี “เคลื่อนที่ผ่านหน้า (Transit Method)” กล่าวคือ เมื่อดาวเคราะห์โคจรผ่านหน้าดาวฤกษ์ดวงแม่ แสงจากดาวฤกษ์จะลดลงอย่างเป็นรูปแบบ วิธีนี้เป็นวิธีค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะมากที่สุด  

แม้ว่าการค้นหาดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเราไม่สามารถใช้วิธีดังกล่าวได้ เนื่องจากดาวเคราะห์ X จะไม่เคลื่อนผ่านหน้าดวงอาทิตย์เมื่อสังเกตจากโลก แต่อาจค้นหาได้โดยนำข้อมูลการสำรวจท้องฟ้าของดาวเทียมเทสส์ร่วมกับการใช้เทคนิคซ้อนภาพทางดาราศาสตร์ที่เรียกว่า “ดิจิทัล แทร็กกิ้ง” (Digital Tracking)

อย่างไรก็ดี การนำข้อมูลภาพถ่ายในมุมมองเดียวกันมาซ้อนกันหลาย ๆ ภาพ เพื่อเพิ่มความสว่างของวัตถุในภาพ เป็นวิธีการที่ไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุที่กำลังเคลื่อนที่แบบดาวเคราะห์ X นักดาราศาสตร์จึงจำเป็นต้องคาดเดาวงโคจรโดยประมาณของดาวเคราะห์ X เพื่อระบุตำแหน่งของดาวเคราะห์ที่แน่นอน จึงจะสามารถประมวลผลต่อไปได้ 

as20200116 1 03

ภาพการติดตามดาวเคราะห์น้อยโดยใช้เทคนิคการซ้อนภาพแบบพิเศษที่เรียกว่า Digital Tracking 

เทคนิคดิจิทัล แทร็กกิ้ง เป็นเทคนิคที่เคยใช้ร่วมกับข้อมูลของกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล เพื่อค้นหาวัตถุพ้นดาวเนปจูน (Trans-Neptunian Object) นำไปสู่การค้นพบ 3 วัตถุ ได้แก่ Sedna, 2015 BP519 และ 2015 BP518 ถึงแม้ภาพที่ได้มีความละเอียดต่ำ แต่เมื่อนักดาราศาสตร์นำภาพของวัตถุทั้งสามมาปรับแก้จนมีความชัดเจนขึ้นก็ทำให้ระบุและสังเกตเห็นวัตถุนั้นได้

as20200116 1 04

ภาพ Sedna, 2015 BP519 และ 2015 BP518 ตามลำดับ 

จากแบบจำลองคาดว่า ดาวเคราะห์ X มีค่าความสว่างปรากฏประมาณ 9 - 24 ซึ่งอยู่ในช่วงที่ดาวเทียมเทสส์สามารถตรวจจับได้   หากมีดาวเคราะห์ X อยู่จริง ดาวเคราะห์จะต้องปรากฏอยู่ในรูปถ่ายรูปใดรูปหนึ่งของดาวเทียมเทสส์แล้ว นักดาราศาสตร์จึงพยายามค้นหาข้อมูล เพื่อนำมาตรวจสอบด้วยการใช้เทคนิคเดียวกันนี้ ซึ่งอาจทำให้ได้ภาพของดาวเคราะห์ X ที่ชัดเจนขึ้น เป็นหลักฐานสนับสนุนว่า มีดาวเคราะห์อีกดวงในระบบสุริยะของเราจริงหรือไม่ คงต้องลุ้นผลการตรวจสอบกันต่อไป 

เรียบเรียง : กฤษดา รุจิรานุกูล - เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ สดร.

อ้างอิง :

[1] https://www.sciencealert.com/tess-may-have-already-spotted-the-mysterious-planet-nine?perpetual=yes&limitstart=1

[2] https://www.nature.com/news/evidence-grows-for-giant-planet-on-fringes-of-solar-system-1.19182?fbclid=IwAR1oKuIc7RlwxrOf4OC8rpG7aGVDBF6j9VQI7Q03999a28chon4vhaqox8Q

[3] https://iopscience.iop.org/article/10.3847/0004-6256/151/2/22/meta?fbclid=IwAR33GY45R8cTwyTaWwhqK6nKbfUCcDWcY1Qk6YYHLkm89aQ4GAa1x24HnsU

[4] https://tessgi.github.io/TessGiWebsite/operations.html

[5] https://www.noao.edu/news/2015/asteroid-tracks.php

| Category: ข่าวดาราศาสตร์ | Hits: 4627