เนื่องจากกล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตรที่หอดูดาวแห่งชาติบนดอยอินทนนท์ ระบบควบคุมการเคลื่อนที่ของตัวกล้องมีความล้าสมัยควบคุมโดยการใช้สัญญาณอนาล๊อก รวมถึงอุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆที่มีการเลิกผลิต จึงไม่สามารถหาอะไหล่อุปกรณ์นั้นได้ จึงได้มีโครงการพัฒนากล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตร โดยจะมีการออกแบบละพัฒนาระบบควบคุมใหม่ทั้งหมด เพื่อใช้อุปกรณ์ควบคุมที่ทันสมัย  และตอบสนองกับความต้องการในการควบคุมกล้องในปัจจุบันได้

        ในเฟสที่หนึ่งของการพัฒนาระบบควบคุมของกล้อง ทางศูนย์ฯ ได้มีความร่วมมือกับสถาบันไทย-เยอรมัน ในการศึกษาระบบกล้องที่มีอยู่ และทำการ Reengineering ระบบ เพื่อทำความเข้าใจระบบและโครงสร้างของกล้องทั้งหมด

mac th telescope 1

ภาพ แผนผังระบบควบคุมของกล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตรเดิม

        ในเฟสที่สอง เนื่องจากระบบของกล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตรเป็นระบบขนาดใหญ่รวมถึงเป็นระบบที่ไม่สามารถแยกออกมาเป็นส่วนๆ เพื่อใช้ในการทดลองกับระบบใหม่ ซึ่งถ้ามีการทดลองกับกล้องเดิมที่ประกอบอยู่แล้ว มีโอกาสสูงอาจเกิดอันตรายจากการทดลองได้ จึงได้มีการออกแบบตัวจำลองของกล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตร โดยใช้กล้องขนาด 14 นิ้วมาเป็นตัวทดลอง ในขนาดระบบที่เล็กลง และสามารถแยกเป็นส่วนๆได้ จึงสามารถควบคุมความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ในเฟสนี้ได้มีการออกแบบชุดจับยึดกล้องขนาด 14 นิ้ว โดยใช้อุปกรณ์หลักเป็นชนิดเดียวกับกล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตร ทั้งหมด เช่นตัวมอเตอร์ที่เป็นชนิดเดียวกันแต่ขนาดเล็กลง อุปกรณ์วัดตำแหน่งกล้อง ( Encoder ) ชนิดเดียวกันที่มีความละเอียดน้อยลง และเซนเซอร์บอกตำแหน่งต่างๆ จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกับกล้องโทรทัศน์ขนาด 2.4 เมตร ทั้งหมด ส่วนระบบควบคุมจะเลือกใช้รุ่นที่ทันสมัย เป็นระบบควบคุมแบบดิจิตอลทั้งหมดจึงสามารถออกแบบสร้างฟังค์ชัน และการควบคุมกล้องที่มีความความแม่นยำที่สูงกว่าระบบอนาล๊อกเดิมได้มาก สามารถพัฒนาระบบการแจ้งเตือนการทำงานผิดพลาดได้อย่างแม่นยำ และครบถ้วนรวดเร็วกว่าระบบเดิม โดยในส่วนของการพัฒนาซอฟแวร์ระบบควบคุมจะพัฒนาโดย นายภควัต ประสิทธิ์

mac th telescope 2


ภาพ ภาพแบบจำลองกล้องขนาด 14 นิ้ว

        ในเฟสที่สามที่กำลังจะเกิดขึ้น หลังจากทดลองกับกล้องขนาด 14 นิ้วสำเร็จทั้งหมด จะทำการออกแบบระบบควบคุมที่ใช้จริงกับขนาด 2.4 เมตร และมีการประกอบและติดตั้งจริงที่หอดูดาว รวมถึงการ Tuning ระบบ เพื่อให้กล้องสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

 

พัฒนาโดย :  ภัทร ชัยสวัสดิ์
วิศวกร , งานพัฒนาเทคโนโลยีและวิศวกรรม