ข่าวดาราศาสตร์


ยานบลูโกสต์ (Blue Ghost) ของบริษัท Firefly Aerospace
จากรัฐเท็กซัส สหรัฐฯ ได้ลงจอดบนดวงจันทร์สำเร็จ

นับเป็นความสำเร็จครั้งแรกในการลงจอดบนพื้นผิวดวงจันทร์อย่างสมบูรณ์ที่เกิดขึ้นโดยบริษัทเอกชน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา

ยานอวกาศ Blue Ghost ตั้งชื่อตามสปีชีส์หายากของหิ่งห้อยชนิดหนึ่ง (ซึ่งเป็นความหมายของชื่อบริษัท Firefly) มีขนาดสูงประมาณ 2 เมตร ได้ลงจอดในบริเวณของภูเขาไฟเก่า Mons Latreille ในบริเวณของ “ทะเลแห่งวิกฤต” (Mare Crisium) ที่ราบบะซอลต์แห่งหนึ่งบนพื้นผิวดวงจันทร์ด้านใกล้โลก ซึ่งนอกจากเซ็นเซอร์บนขาข้างหนึ่งในขาลงจอดสี่ข้างขัดข้อง ไม่ยอมรายงานการสัมผัสพื้นผิวดวงจันทร์แล้ว อุปกรณ์ทุกอย่างยังใช้งานได้ดี นับเป็นการลงจอดอย่างสมบูรณ์ครั้งแรกของยานสำรวจอวกาศที่ผลิตโดยภาคเอกชน

บทความ ยาน Blue Ghost

การส่งยานลงจอดบนดวงจันทร์โดยภาคเอกชนนั้นยังคงเป็นเรื่องที่ท้าทาย และยังไม่เคยมีใครทำสำเร็จมาก่อน ก่อนหน้านี้ ยานฮากุโตะ-อาร์ในภารกิจ Hakuto-R Mission 1 ของญี่ปุ่นได้พุ่งชนกับพื้นผิวดวงจันทร์ไปในปี 2023 ยานเพอรีกริน (Peregrine) ของสหรัฐไม่สามารถออกจากวงโคจรรอบโลกเพื่อลงจอดได้ และเผาไหม้ไปในชั้นบรรยากาศของโลกไปในที่สุดในต้นปี 2024 ยานโอดิสซิอุส (Odysseus) ได้ลงจอด บนพื้นผิวดวงจันทร์ แต่กลับอยู่ในสภาพตะแคงข้างและไม่สามารถใช้งานได้ และโดยภาพรวมแล้ว การพยายามลงจอดบนดวงจันทร์กว่าครึ่งหนึ่งของที่เคยผ่านมาทั้งหมด จบลงด้วยความล้มเหลว

การลงจอดของยานสำรวจจากบริษัทเอกชนในครั้งนี้ จึงนับเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการสำรวจอวกาศในอนาคต ในขณะที่การส่งมนุษย์ไปเหยียบบนดวงจันทร์นั้นต้องใช้งบประมาณอันมหาศาล การส่งยานสำรวจเหล่านี้โดยภาคเอกชนใช้ต้นทุนที่ต่ำกว่าเป็นอย่างมาก และสอดคล้องกับการพยายามเพิ่มบทบาทของบริษัทเอกชนในการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการทางธุรกิจและเศรษฐกิจในอวกาศที่กำลังเติบโตอย่างไม่หยุดยั้ง

บนยานบลูโกสต์นี้ เต็มไปด้วยอุปกรณ์และการทดลองทางวิทยาศาสตร์กว่า 10 อย่างที่ผลิตโดยองค์การนาซา ตั้งแต่การทดลองการใช้ GPS ในวงโคจรและพื้นผิวดวงจันทร์ เครื่องมือตรวจสอบดินบนดวงจันทร์ กล้องโทรทรรศน์ที่จะสามารถศึกษาการทำงานของสนามแม่เหล็กโลกและสภาพอวกาศ นอกจากนี้ ยังมีกล้องถ่ายภาพความละเอียดสูงที่จะสามารถบันทึกภาพจันทรุปราคาเต็มดวงที่กำลังจะมาถึงจากพื้นผิวดวงจันทร์ ที่ซึ่งโลกจะบดบังแสงจากดวงอาทิตย์โดยสิ้นเชิง เหลือแต่เพียงแสงสนธยาที่เลี้ยวเบนผ่านชั้นบรรยากาศของโลก และทีมงานหวังว่ากล้องจะสามารถบันทึกปรากฏการณ์ "แสงเรืองจากขอบฟ้าของดวงจันทร์" (lunar horizon glow) ที่เกิดจากการกระเจิงของแสงผ่านอนุภาคมีประจุที่ถูกแขวนลอยเอาไว้ด้วยแรงไฟฟ้าสถิตเหนือพื้นผิวของดวงจันทร์ ที่เคยมีรายงานเอาไว้โดยนักบินอวกาศจากยานอพอลโล 15 และ 17 เท่านั้น

ภารกิจของ Blue Ghost จะดำเนินต่อไป จนกระทั่งเข้าสู่กลางคืนของดวงจันทร์ ซึ่งอุณหภูมิจะลดลงถึงต่ำกว่า 173 องศาเซลเซียส อุณหภูมิอันเย็นยะเยือกที่กินเวลายาวนานกว่าสองสัปดาห์นี้ มักจะเป็นจุดสิ้นสุดของยานสำรวจอวกาศบนดวงจันทร์ที่ผ่านมาทั้งหมด แต่ Blue Ghost นั้นได้ถูกออกแบบมาให้สามารถทนทานสภาวะสุดขั้วนี้ไปได้อีกสักพักหนึ่ง เพื่อที่จะสามารถบันทึกข้อมูลของกลางคืนบนดวงจันทร์ไปได้ แม้จะเป็นอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น

ยานบลูโกสต์นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ขององค์การอวกาศนาซา ที่ผันมาสนับสนุนและผลักดันการพัฒนาอวกาศโดยภาคเอกชน ปัจจุบันมีบริษัทเอกชนกว่า 14 บริษัทที่ชนะประมูลเพื่อเข้าร่วมโครงการนี้ และนอกจากบริษัท Astrobotic Technology ที่ส่งยาน Peregrine และ Intuitive Machines ที่ส่งยาน Odysseus มาแล้วก่อนหน้านี้แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ในปัจจุบันนี้ ยังมียานลำที่สองของ Intuitive Machines ที่กำลังจะเดินทางไปยังดวงจันทร์ และบริษัท Ispace ของญี่ปุ่นก็ได้ส่งยานในภารกิจ Hakuto-R Mission 2 ที่ถูกส่งไปบนจรวดลำเดียวกับ Blue Ghost นี้ เพื่อกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้ง โดยมีกำหนดที่จะลงจอดในภายหลัง

มนุษย์นั้นเพิ่งจะคิดค้นอากาศยานได้ในปี ค.ศ. 1903 แต่เพียง 16 ปีต่อมาเราก็ได้บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเป็นครั้งแรก และอีกเพียง 20 ปีต่อมา เราก็ได้เริ่มขายตั๋วสายการบินใบแรกเพื่อบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก และแม้ว่ามนุษย์จะเพิ่งลงจอดบนดวงจันทร์ไปเพียงเมื่อ 55 ปีที่แล้ว แต่ในทุกวันนี้เราคิดค้นวิธีที่เราสามารถกลับไปยังดวงจันทร์ด้วยวิธีที่ถูกลง มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นที่แน่ชัดว่าอนาคตของการเดินทางไปยังดวงจันทร์นั้น การลงทุนของภาคเอกชนจะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก และไม่ช้าก็เร็ว อวกาศจะไม่เป็นเพียงความท้าทายของคนเพียงไม่กี่คนอีกต่อไป แต่จะเป็นเรื่องของการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจที่ทุกคนสามารถมีบทบาทได้ โดยเห็นได้จากการที่นานานับประเทศเริ่มหันมาให้ความสนใจและมุ่งที่จะพัฒนาทางเทคโนโลยีอวกาศเพื่อกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้ง

เรียบเรียง : ดร. มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการดาราศาสตร์ NARIT