Press Release


เปิดโผ 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์น่าติดตามปี 2568

สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร. หรือ NARIT) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เปิดโผ 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์น่าติดตามปี 2568 เตรียมชมจันทรุปราคาเต็มดวง ดาวอังคารใกล้โลก ดาวศุกร์สว่างที่สุด ดาวเสาร์ไร้แหวน ดวงจันทร์ใกล้-ไกลโลก รวมถึงฝนดาวตก และดาวเคียงเดือนมีให้ติดตามชมได้ตลอดปี

10 ปรากฏการณ์ 68 01

นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผู้จัดการศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ เปิดเผยว่า ในแต่ละปีจะมีปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตาม และเนื่องในโอกาสปีใหม่ที่จะถึงนี้ สดร. จึงคัดสรร 10 ปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่น่าติดตามในปี 2568 มาฝากชาวไทย ดังนี้

1. “ดาวอังคารใกล้โลก” และ “ดาวอังคารอยู่ตรงข้ามดวงอาทิตย์”  ในคืนวันที่ 12 มกราคม 2568 ดาวอังคารจะโคจรมาอยู่ตำแหน่งใกล้โลกที่สุด ระยะห่างประมาณ 96 ล้านกิโลเมตร จากนั้นจะโคจรไปอยู่ในตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์วันที่ 16 มกราคม 2568 ช่วงดังกล่าวสามารถสังเกตการณ์ดาวอังคารได้ตลอดทั้งคืน ปรากฏสว่างเป็นสีส้มแดงบนฟ้า หากชมผ่านกล้องโทรทรรศน์กำลังขยายตั้งแต่ 100 เท่าขึ้นไป จะเห็นพื้นน้ำแข็งสีขาวบริเวณขั้วของดาวอังคารได้ ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นทุก ๆ ประมาณ 26 เดือน

2. “ดาวศุกร์สว่างที่สุด”  เกิดขึ้น 2 ครั้งในรอบปีนี้ ครั้งแรกช่วงหัวค่ำวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ทางทิศตะวันตก และช่วงรุ่งเช้า วันที่ 24 เมษายน 2568 ทางทิศตะวันออก 

3. “ดาวเสาร์เสมือนไร้วงแหวน”  ช่วงวันที่ 23 - 24 มีนาคม 2568 ดาวเสาร์จะปรากฏเสมือนไร้วงแหวน เป็นมุมมองจากโลกที่จะเห็นลักษณะนี้ทุก ๆ 15 ปี แต่ช่วงวันดังกล่าวดาวเสาร์อยู่ใกล้ดวงอาทิตย์ จึงขึ้นและตกในเวลากลางวัน ส่งผลให้สังเกตการณ์ได้ยาก ผู้สนใจแนะนำชมช่วงดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปีวันที่ 21 กันยายน 2568 

4. “ดาวเสาร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี” วันที่ 21 กันยายน 2568 ดาวเสาร์จะโคจรมาอยู่ตำแหน่งตรงข้ามดวงอาทิตย์ (Saturn Opposition) จึงมีระยะใกล้โลกที่สุดในรอบปี ห่างจากโลกประมาณ 1,279 ล้านกิโลเมตร สังเกตการณ์ได้ตลอดทั้งคืน และแม้ว่าช่วงดังกล่าวจะไม่ปรากฏเสมือนไร้วงแหวน แต่ระนาบวงแหวนยังคงมีมุมเอียงที่น้อย จึงจะเห็นเป็นดาวเสาร์พร้อมวงแหวนบาง ๆ 

5. “จันทรุปราคาเต็มดวง” ไฮไลต์เด่นที่น่าจับตาที่สุดในปีนี้  เป็นจันทรุปราคาเต็มดวงในไทยที่เกิดขึ้นครั้งแรกในรอบสามปี (ล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2565) เกิดขึ้นในคืนวันที่ 7 - เช้ามืด 8 กันยายน 2568 เวลาประมาณ 22:29 น. ถึง 03:55 น. (ตามเวลาประเทศไทย) คราสเต็มดวงเวลาประมาณ 00:31 ถึง 01:53 น. ช่วงดังกล่าวดวงจันทร์เต็มดวงจะปรากฏเป็นสีแดงอิฐ นาน 1 ชั่วโมง 22 นาที ประเทศไทยมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าตลอดปรากกฏการณ์  

6. ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้-ไกลโลกที่สุดในรอบปี  ปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลกที่สุดในรอบปี (Micro Full Moon) ตรงกับวันที่ 13 เมษายน 2568 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏเล็กว่าปกติเล็กน้อย และปรากฏการณ์ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี (Super Full Moon) ตรงกับวันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 ดวงจันทร์เต็มดวงจะมีขนาดปรากฏใหญ่กว่าปกติเล็กน้อย

7. ฝนดาวตกน่าติดตาม  ฝนดาวตกเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เกิดจากโลกโคจรเข้าตัดผ่านสายธารเศษหินและฝุ่นในอวกาศที่ดาวเคราะน้อยและดาวหางทิ้งไว้ ไฮไลต์เด่นของฝนดาวตกในปี 2568 คือ “ฝนดาวตกเจมินิดส์” (อัตราการตก 150 ดวงต่อชั่วโมง) คืนวันที่ 14 - 15 ธันวาคม 2568 ปีนีี้ไม่มีแสงจันทร์รบกวน สำหรับฝนดาวตกอื่น ๆ ตลอดปี มีดังนี้

  • 3 - 4 มกราคม 2568 ฝนดาวตกควอดรานติดส์ (อัตราการตก 80 ดวงต่อชั่วโมง)
  • 22 - 23 เมษายน 2568 ฝนดาวตกไลริดส์ (อัตราการตก 18 ดวงต่อชั่วโมง)
  • 5 - 6 พฤษภาคม 2568 ฝนดาวตกอีตาอควอริดส์ (อัตราการตก 50 ดวงต่อชั่วโมง)
  • 30 - 31 กรกฎาคม 2568 ฝนดาวตกเดลตาอควอริดส์ (อัตราการตก 25 ดวงต่อชั่วโมง)
  • 21 - 22 ตุลาคม 2568 ฝนดาวตกโอไรออนิดส์ (อัตราการตก 20 ดวงต่อชั่วโมง)
  • 17 - 18 พฤศจิกายน 2568 ฝนดาวตกลีโอนิดส์ (อัตราการตก 15 ดวงต่อชั่วโมง)
  • 22 - 23 ธันวาคม 2568 ฝนดาวตกเออร์ซิดส์ (อัตราการตก 10 ดวงต่อชั่วโมง)

8. ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุม  ในปี 2568 มีปรากฏการณ์ดาวเคียงเดือน และดาวเคราะห์ชุมนุมให้ชมตลอดทั้งปี ได้แก่ 4 ม.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 18 ม.ค. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวเสาร์ / 1 ก.พ. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 11 เม.ย. 68 ดาวพุธเคียงดาวเสาร์ / 25 เม.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวศุกร์และดาวเสาร์ / 26 เม.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวพุธ / 29 เม.ย. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวเสาร์ / 2 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวพอลลักซ์และคาสเตอร์ (ปรากฏคล้ายพระจันทร์ยิ้ม) / 23 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวเสาร์ / 24 พ.ค. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวศุกร์ / 1 มิ.ย. 68 ดวงจันทร์เคียงดาวอังคาร / 12 ส.ค. 68 ดาวศุกร์เคียงดาวพฤหัสบดี

9. ดวงอาทิตย์ตั้งฉากประเทศไทย ประเทศไทยมีช่วงที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ 2 ครั้งในรอบปี ครั้งแรกในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤษภาคม เริ่มจากภาคใต้ไล่ขึ้นไปเรื่อย ๆ กรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 27 เมษายน 2568 และจบที่ภาคเหนือในเดือนพฤษภาคม ส่วนครั้งที่สองอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน โดยเริ่มจากภาคเหนือปลายเดือนกรกฎาคม ไล่ลงไปจนถึงกรุงเทพฯ ตรงกับวันที่ 16 สิงหาคม 2568 และจบที่ภาคใต้ในช่วงเดือนกันยายน ช่วงเวลาที่ดวงอาทิตย์ผ่านจุดเหนือศีรษะ (ตั้งฉากกับประเทศไทย) จะแตกต่างกันไปแต่ละพื้นที่ สังเกตได้จากเงาจะตกอยู่ใต้วัตถุพอดีเสมือนไร้เงา

10. ฤดูกาลทางดาราศาสตร์  วันที่กำหนดฤดูกาลต่าง ๆ ของโลกในปี 2568 มีดังนี้

  • วันที่ 20 มีนาคม 2568 วันวสันตวิษุวัต (Vernal Equinox) ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืน นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง
  • วันที่ 21 มิถุนายน 2568 วันครีษมายัน (Summer Solstice) ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูร้อน ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูหนาว
  • วันที่ 23 กันยายน 2568 วันศารทวิษุวัต (Autumnal Equinox) ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนนับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ
  • วันที่ 21 ธันวาคม 2568 วันเหมายัน (Winter Solstice) ช่วงเวลากลางคืนยาวนานที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูหนาว ส่วนซีกโลกใต้ย่างเข้าสู่ฤดูร้อน

สดร. จึงขอเชิญชวนประชาชนติดตามชมปรากฏการณ์ดาราศาสตร์ที่สนใจ ซึ่ง สดร. มีแผนจัดกิจกรรมสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ตลอดทั้งปีติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ 

งานประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)
โทร. 053-121268-9 ต่อ 210-211 , 081-8854353 โทรสาร 053-121250
E-mail: [email protected] Website : www.narit.or.th
Facebook: www.facebook.com/NARITpage, X : @NARIT_Thailand,
Instagram: @NARIT_Thailand, TikTok: NARIT_Thailand